ธันวาคม 28, 2021
“เริม” โรคติดต่อทางผิวหนัง ที่ต้องระวัง!!! EP5“แผลเป็นคีลอยด์” (Keloid Scar) EP8
คีลอยด์เป็นแผลเป็นชนิดหนึ่ง ลักษณะของแผลคีลอยด์จะนูนและหนาขึ้นจากผิวหนัง และอาจขยายใหญ่กว่าบาดแผลเดิมที่เกิดขึ้น เมื่อเป็นแผลก็มีโอกาสที่จะเป็นคีลอยด์ได้เสมอ แต่ส่วนใหญ่แผลเป็นคีลอยด์มักจะเกิดบริเวณติ่งหู ไหล่ แก้มและหน้าอก
แผลเป็นคีลอยด์มักเกิดกับใคร
- ผู้ที่มีผิวสีเข้ม
- ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์ หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์
อาการของแผลเป็นคีลอยด์
- เป็นก้อนนูนขึ้นจากผิวหนัง มักเกิดบริเวณติ่งหู หัวไหล่ แก้มหรือหน้าอก
- อาจรู้สึกระคายเคืองบริเวณแผลเป็น
- อาจรู้สึกคันหรือแสบร้อนได้
วิธีป้องกันแผลเป็นคีลอยด์
- เมื่อเป็นแผลให้ดูแลแผลให้สะอาด และใช้เจลหรือแผ่นแปะแผลคีลอยด์เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น
- ระวังอย่าให้เกิดบาดแผล เมื่อเป็นแผลควรรีบทำการรักษา
เป้าหมายของการรักษาแผลเป็นคีลอยด์
- เพื่อบรรเทาอาการคันหรือลดอาการเจ็บที่เกิดจากคีลอยด์
- เพื่อให้แผลเป็นเรียบลงหรือมีขนาดเล็กลง
- รักษาเพื่อความสวยงาม
การรักษารอยแผลเป็นชนิดนูนหรือแผลเป็นคีลอยด์
- การฉีดยาบริเวณแผลเป็นเพื่อให้แผลเป็นราบลง ตัวยาที่ใช้ฉีดมีด้วยกันหลายตัว โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่ายาตัวไหนเหมาะกับผู้ป่วยมากที่สุด
- การผ่าตัดเอาแผลเป็นคีลอยด์ออก หลังจากการผ่าตัดแพทย์จะฉีดยาเข้าไปที่บริเวณแผลเป็นเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ แต่วิธีนี้จะได้ผลดีเฉพาะคีลอยด์บางตำแหน่ง
- การใช้แผ่นซิลิโคนแปะรอยแผลเป็นเพื่อลดการอักเสบและอาการคัน
- การจี้ด้วยความเย็น (Cryosurgery)
- การรักษาด้วยเลเซอร์
- การทาครีมหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นและเพื่อให้รอยแผลเป็นนิ่มลง
การรักษาโดยใช้หลายวิธีร่วมกันจะได้ผลมากกว่ารักษาด้วยวิธีเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นแผลเป็นคีลอยด์แล้ว ยากที่จะรักษาให้ผิวบริเวณนั้นกลับมาเป็นปกติ เพราะคีลอยด์อาจเป็นซ้ำได้หลังการรักษา